การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ คือธุรกรรมการลงทุนที่ผู้ลงทุนมีถิ่นฐานจากต่างประเทศ โดยจะครอบคลุมถึงเงินลงทุนในหุ้นที่มีสิทธิ์ร่วมในการบริหารกิจการ ตั้งแต่ร้อยละ 10 ขึ้นไป, การกู้ยืมระหว่างบริษัทในเครือ, กำไรที่นำกลับมาลงทุน, และตราสารหนี้และสินเชื่อการค้าที่เป็นธุรกรรมระหว่างบริษัทในเครือเดียวกัน นายธนาพัชร อัครพัฒนเมธนักวิจัยโครงการสวค. สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ บีโอไอ ได้รายงานว่า มูลค่าของการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ(Foreign Direct Investment: FDI) ในช่วงครึ่งปีแรกของปี พ.ศ. 2566 สูงถึง 304,041 ล้านบาทเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี พ.ศ. 2565 ที่มูลค่าการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศเพียง 126,187 ล้านบาท ถ้าหากพวกเราได้มีการติดตามข่าวสารทางเศรษฐกิจเป็นประจำ ก็จะต้องได้ยินเกี่ยวกับตัวเลขทางเศรษฐกิจตัวนี้ รัฐบาลไทยมีการดำเนินนโยบายเพื่อส่งเสริมให้นักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง โดยมีมาตรการอำนวยความสะดวกในการลงทุนและสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ เช่น การยกเว้นการเก็บภาษีเงินได้ การให้สิทธิในการถือครองที่ดินระยะยาวเพื่อการลงทุน โดยรัฐบาลมีเป้าหมายให้ไทยเป็นศูนย์กลางการลงทุนของภูมิภาคโดยเน้นส่งเสริมการลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับอุตสาหกรรมใหม่ (New S-Curve) ที่จะเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจในอนาคต เช่น พลังงานสะอาด ยานยนต์ไฟฟ้า การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ คือธุรกรรมการลงทุนที่ผู้ลงทุนมีถิ่นฐานจากต่างประเทศ โดยจะครอบคลุม (1) เงินลงทุนในหุ้นที่มีสิทธิ์ร่วมในการบริหารกิจการ ตั้งแต่ร้อยละ 10 ขึ้นไป (2) การกู้ยืมระหว่างบริษัทในเครือ
ศูนย์เศรษฐกิจการคลังและสังคม
ให้บริการวิชาการด้านการวิจัยทางเศรษฐกิจ การคลัง และนโยบายด้านสังคม รวมถึงการพัฒนาข้อเสนอชุดมาตรการ และการออกแบบระบบ/กลไกการบริหารและการปฏิบัติงานให้กับหน่วยงานภาครัฐและเอกชน อาทิ เป็นที่ปรึกษาในการพัฒนายุทธศาสตร์และแผนกลยุทธ์ขององค์กร การศึกษาด้านการเงินและความเป็นไปได้ทางธุรกิจ การศึกษาด้านพฤติกรรมของกลุ่มตัวอย่าง รวมทั้งนโยบายด้านกำลังคนและค่าตอบแทน การสร้างเครื่องชี้วัดทางเศรษฐกิจและสังคม เป็นต้น