Category Archives: คลังความรู้

ทำไม ยุคนี้ต้อง “สีเขียว”

ปัญหาที่ทุกประเทศทั่วโลกต้องเผชิญเหมือนกันในปัจจุบันคงหนีไม่พ้นปัญหาที่อุณภูมิโลกเพิ่มสูงขึ้น โดยในช่วงปลายเดือนกรกฎาคม 2566 คุณ António Guterres เลขาธิการสหประชาขาติ ได้กล่าวเตือนว่า ยุคของ Global Warming ได้สิ้นสุดลงแล้ว และเรากำลังจะเข้าสู่ยุคของ Global Boiling… นางสาวสมฤทัย แสงทองนักวิจัยสถาบันวิจัยนโยบายเศรษฐกิจการคลัง ปัญหาที่ทุกประเทศทั่วโลกต้องเผชิญเหมือนกันในปัจจุบันคงหนีไม่พ้นปัญหาที่อุณภูมิโลกเพิ่มสูงขึ้นในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2566 ที่ผ่านมา องค์การอุตุนิยมวิทยาโลก หรือ World Meteorological Organization (WMO) ได้มีการคาดการณ์ว่าระหว่างปี พ.ศ. 2566 – 2570 อุณหภูมิใกล้ผิวโลกเฉลี่ยต่อปีจะสูงกว่ายุคก่อนอุตสาหกรรมประมาณ 1.1 – 1.8 องศาเซลเซียส และมีโอกาสสูงถึงร้อยละ 66 ที่อุณหภูมิของโลกจะเพิ่มสูงเกิน 1.5 องศาเซลเซียส ภายในปี พ.ศ. 2570 ในช่วงปลายเดือนกรกฎาคม 2566 คุณ António Guterres เลขาธิการสหประชาขาติ ได้กล่าวเตือนว่า ยุคของ Global Warming

ภาษีศุลกากรสำหรับไฟล์ดิจิทัล : 20 ปีของการหารือและทางเลือกของประเทศไทย

ภาษีศุลกากรเป็นเครื่องมือการหารายได้ของรัฐบาลที่ใช้งานกันอย่างยาวนานนับตั้งแต่โลกมีการค้าระหว่างประเทศ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อทั้งการหารายได้และการควบคุมการค้าผ่านพรมแดนให้เป็นไปตามนโยบายทางสังคมและเศรษฐกิจของประเทศ นายสรัล สุขเจริญยิ่งยงนักวิจัยสถาบันวิจัยนโยบายเศรษฐกิจการคลัง ภาษีศุลกากรเป็นเครื่องมือการหารายได้ของรัฐบาลที่ใช้งานกันอย่างยาวนานนับตั้งแต่โลกมีการค้าระหว่างประเทศ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อทั้งการหารายได้และการควบคุมการค้าผ่านพรมแดนให้เป็นไปตามนโยบายทางสังคมและเศรษฐกิจของประเทศ อย่างไรก็ตาม เมื่อโลกพัฒนามาจนถึงจุดที่เทคโนโลยีดิจิทัลเปลี่ยนแปลงรูปแบบของสินค้าบางกลุ่มจากที่เป็นสินค้ากายภาพที่จับต้องได้เป็นสินค้าดิจิทัลที่จับต้องไม่ได้ เช่น หนังสือ ภาพยนตร์ เพลง กอปรกับการพัฒนาของเทคโนโลยีการสื่อสารข้ามพรมแดนที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพสูงขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้สามารถส่งข้อมูลภาพ เสียง วิดีทัศน์ และอื่น ๆ ไปยังที่ต่าง ๆ เพื่อนำไปใช้งานทั้งในประเทศ และระหว่างประเทศโดยไม่ได้อยู่ในรูปแบบของสินค้ากายภาพอีกต่อไป ดังนั้นการเปลี่ยนแปลงข้างต้น ทำให้ต้องเปลี่ยนแนวคิดในการกำหนดนโยบายการค้าระหว่างประเทศใหม่เพื่อจัดการกับการค้าข้ามแดนของสิ่งที่จับต้องไม่ได้ ในปัจจุบัน ประเทศต่าง ๆยังไม่สามารถหาข้อสรุปเกี่ยวกับแนวนโยบายใหม่ โดยอย่างยิ่งประเด็นภาษีศุลกากรสำหรับการส่งผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์ (เช่น ทางอินเตอร์เน็ต) ยังคงเป็นประเด็นที่ถกเถียงของภาคนโยบายการค้าทั้งในระดับประเทศ ไปจนถึงเวทีประชุมการค้าโลกมายาวนานกว่า 20 ปี แนวคิดการปฏิบัติด้านภาษีศุลกากรสำหรับการส่งผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์เป็นแนวคิดที่ถูกนำเสนอบนเวทีที่ประชุมการค้าระหว่างประเทศครั้งแรกในปี ค.ศ. 1998 ในที่ประชุมวาระการค้าอิเล็กทรอนิกส์ โดยมาจากความกังวลเรื่องการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีที่ทำให้สินค้าบางกลุ่มเปลี่ยนรูปแบบการจัดเก็บจากทางกายภาพมาส่งผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์เต็มรูปแบบ เนื่องจากที่ประชุมยังไม่สามารถหาข้อสรุปเกี่ยวกับขอบเขตของสิ่งส่งผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงวิธีการจัดการกับสิ่งส่งผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์ได้อย่างเหมาะสม เช่น แนวทางการเก็บภาษีศุลกากรของสิ่งที่ส่งผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์ จึงมีมติให้ประเทศสมาชิกยกเว้นการเก็บภาษีศุลกากรเป็นการชั่วคราว อย่างไรก็ตาม ประเทศสมาชิกองค์การการค้าโลกกก็ยังไม่มีข้อสรุปเกี่ยวกับเรื่องนี้และยังคงมติให้มีการยกเว้นการเก็บภาษีศุลกากรชั่วคราวในการประชุมครั้งล่าสุด เมื่อปี พ.ศ. 2564 ในปัจจุบัน สิ่งส่งผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์เองก็ได้รับการจำกัดกรอบให้ชัดเจนขึ้นทั้งบนเวทีการค้าโลก และในความตกลงทางการค้าระหว่างประเทศ โดยจุดร่วมของนิยามต่าง ๆ

หลากหลายมิติของการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ

การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ คือธุรกรรมการลงทุนที่ผู้ลงทุนมีถิ่นฐานจากต่างประเทศ โดยจะครอบคลุมถึงเงินลงทุนในหุ้นที่มีสิทธิ์ร่วมในการบริหารกิจการ ตั้งแต่ร้อยละ 10 ขึ้นไป, การกู้ยืมระหว่างบริษัทในเครือ, กำไรที่นำกลับมาลงทุน, และตราสารหนี้และสินเชื่อการค้าที่เป็นธุรกรรมระหว่างบริษัทในเครือเดียวกัน นายธนาพัชร อัครพัฒนเมธนักวิจัยโครงการสวค. สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ บีโอไอ ได้รายงานว่า มูลค่าของการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ(Foreign Direct Investment: FDI) ในช่วงครึ่งปีแรกของปี พ.ศ. 2566 สูงถึง 304,041 ล้านบาทเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี พ.ศ. 2565 ที่มูลค่าการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศเพียง 126,187 ล้านบาท ถ้าหากพวกเราได้มีการติดตามข่าวสารทางเศรษฐกิจเป็นประจำ ก็จะต้องได้ยินเกี่ยวกับตัวเลขทางเศรษฐกิจตัวนี้ รัฐบาลไทยมีการดำเนินนโยบายเพื่อส่งเสริมให้นักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง โดยมีมาตรการอำนวยความสะดวกในการลงทุนและสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ เช่น การยกเว้นการเก็บภาษีเงินได้ การให้สิทธิในการถือครองที่ดินระยะยาวเพื่อการลงทุน โดยรัฐบาลมีเป้าหมายให้ไทยเป็นศูนย์กลางการลงทุนของภูมิภาคโดยเน้นส่งเสริมการลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับอุตสาหกรรมใหม่ (New S-Curve) ที่จะเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจในอนาคต เช่น พลังงานสะอาด ยานยนต์ไฟฟ้า การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ คือธุรกรรมการลงทุนที่ผู้ลงทุนมีถิ่นฐานจากต่างประเทศ โดยจะครอบคลุม (1) เงินลงทุนในหุ้นที่มีสิทธิ์ร่วมในการบริหารกิจการ ตั้งแต่ร้อยละ 10 ขึ้นไป (2) การกู้ยืมระหว่างบริษัทในเครือ

ก้าวต่อไปอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มไทยต้องอาศัยความกล้าหาญ

อุตสาหกรรมปาล์มน้ำมันของไทย ไม่ได้สร้างความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อมมากในระดับที่มาเลเซียและอินโดนีเซียก่อไว้ การส่งเสริมให้ได้รับฉลากตามเกณฑ์ของ The Roundtable on Sustainable Palm Oil (RSPO) เป็นสิ่งที่สอดคล้องกับนโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ของไทย และคุณภาพตาม RSPO ส่งผลบวกต่อระดับราคาและต่อคุณภาพการบริหารจัดการสวนปาล์ม ผู้เขียน:ดร. วรรณสินท์ สัตยานุวัตร์หัวหน้าศูนย์เศรษฐกิจการค้าและการติดตามประเมินผลสถาบันวิจัยนโยบายเศรษฐกิจการคลังตีพิมพ์ในหนังสือ “การเดินทางของปาล์มน้ำมันไทย สู่ความยั่งยืน” โดย RSPO เครื่องผลิตนน้ำมันธรรมชาติ (Natural oil machine) ความโดดเด่นของ ทะลายปาล์มสด (Fresh Fruit Bunches: FFB) สกัดสู่ น้ำมันปาล์มดิบ (Crude Palm oil: CPO) เป็นเสมือนเครื่องผลิตนน้ำมันธรรมชาติ (Natural oil machine) ที่ธรรมชาติมอบให้มนุษย์ คุณสมบัติที่โดดเด่น 2 ประการ คือ ปาล์มนน้ำมันเป็นพืชที่ปลูกง่ายและให้น้ำมันสูง และน้ำมันปาล์มเป็นสิ่งป้อนเข้า(Input) หรือวัตถุดิบสำคัญสำหรับผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ซึ่งจำแนกเป็น 3 ประเภทหลัก ๆ ได้แก่

โครงสร้างของตลาดแรงงานของประเทศไทย อินโดนีเซีย และเวียดนาม

จากการที่ประเทศส่วนใหญ่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้ใช้การส่งเสริมการลงทุนจากต่างชาติมาเป็นกลยุทธ์สำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจ  การใช้สิทธิพิเศษทางด้านภาษีและการขยายโครงสร้างพื้นฐานได้เป็นเครื่องมือหลักในการส่งเสริมนโยบายดังกล่าว  แต่อย่างไรก็ดี ปัจจัยที่สำคัญอีกประการหนึ่งคือแรงงานซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องสร้างความเข้าใจถึงคุณลักษณะของแรงงานในแต่ละประเทศ ดังนั้นรายงานฉบับนี้จึงจัดทำขึ้นเพื่อนำเสนอคุณลักษณะสำคัญของแรงงานในประเทศไทย ประเทศอินโดนีเซีย และประเทศเวียดนาม  โดยมีประเด็นที่สำคัญดังนี้ 

เราจะช่วยเหลือ SMEs ให้ผ่านพ้นช่วงยากลำบากนี้ไปได้อย่างไร

เราจะช่วยเหลือ SMEs ให้ผ่านพ้นช่วงยากลำบากนี้ไปได้อย่างไร และหลังจากนั้น เมื่อกลับเข้าสู่ภาวะปกติ เราจะทำอย่างไรให้ SMEs สามารถแข่งขันได้ดีและเติบโต ประเด็นเหล่านี้ถูกป้อนเข้าสู่งานสัมมนา เมื่อวันที่ 20 ก.ค. 64 ซึ่งสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ได้ร่วมกับมูลนิธิสถาบันวิจัยนโยบายเศรษฐกิจการคลัง (มูลนิธิ สวค.) จัดงานสัมมนาดังกล่าวผ่านโปรแกรม Zoom เพื่อรวบรวมความคิดเห็นจากผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่าย รวมถึง SMEs เองด้วย โดยมองว่าการร่วมกันคิดร่วมกันทำจะนำไปสู่ความสำเร็จได้มากกว่าต่างฝ่ายต่างแยกกันทำ ในงานนี้เราได้สรุปประมวลผลมาตรการต่างๆ ที่สำคัญที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมา นำเสนอผลการสำรวจโครงสร้างการส่งเสริม SMEs ในภาพรวม รวมถึงนำเสนอผลการประมวลผลมาตรการรายมาตรการทั้งคนละครึ่ง บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และซอฟต์โลน จากการสัมมนาเราได้รับประเด็นทั้งข้อควรปรับปรุง และข้อเสนอแนะต่างๆ ที่เป็นประโยชน์มากต่อการส่งเสริม SMEs ในอนาคต SMEs ต่างได้มีโอกาสสะท้อนความลำบากของตน และแชร์ประสบการณ์ที่ตนได้รับจากการเข้ารับบริการของภาครัฐ ฝ่ายผู้ทำงานได้รับข้อคิดเห็นที่ดีต่อการนำไปพัฒนาการส่งเสริมในอนาคต โดยเฉพาะประเด็นของการช่วยเหลือควบคู่การพัฒนาและสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีไปพร้อมกัน เพื่อให้ SMEs ทุกกลุ่มได้รับการช่วยเหลือในแบบที่ควรจะเป็น พร้อมทั้งยังมีแรงขับเคลื่อนสำคัญเพื่อการเติบโตต่อไปในอนาคต โดยไม่เป็นการช่วยเหลือเพียงครึ่งๆ กลางๆ เราคิดว่างานนี้น่าจะมีประโยชน์ต่อทุกคนไม่มากก็น้อยจึงได้นำวีดีโอบางส่วนมาเผยแพร่ให้ได้รับชมกัน